Shaven FUE
ปลูกผมแบบไร้รอยแผล โดยการโกนผมด้านหลัง
Shaven FUE เป็นวิธีการปลูกผมเทคนิคไร้รอยแผล ไม่ต้องผ่าตัด รอยแผลจากการเจาะนำเซลล์รากผมออกมาหายได้ทันทีหลังปลูกผมเพียง 48 ชั่วโมง ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน เพราะไม่ใช่วิธีผ่าตัดหนังศีรษะ ใช้วิธีเจาะเซลล์ผมด้านหลังทีละเซลล์ ใช้อุปกรณ์เจาะพิเศษ ที่มีขนาดหัวเจาะเล็กเทียบเท่าเส้นผม จึงไม่ทำให้เกิดแผลหลังเจาะ หลังจากนั้นจะนำรากผมแช่ในน้ำยาเลี้ยงกราฟต์สูตรพิเศษ ที่เป็นแหล่งรวมสารอาหาร และสารสำคัญที่จะช่วยให้รากผมฝังตัวใต้หนังศีรษะและเจริญเติบโตได้ดี ก่อนจะนำไปปลูกในบริเวณที่ต้องการโดยใช้ Implanter ที่มีขนาดใกล้เคียงกับเส้นผมที่สุด เพื่อให้เกิดขนาดของรอยแผลเวลาเจาะเซลล์รากผมเล็กที่สุด และไม่ทำให้เกิดแผลตุ่มไข่หนอนหลังปลูก หรือรอยแผลเป็นบนหนังศีรษะ ปลูกผมเสร็จสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
ปลูกผมเทคนิค Shaven FUE ไร้รอยแผลโดย นายแพทย์จารุวัธน์ พลเดช (หมอจา)
Shaven FUE เหมาะกับใคร
เหมาะกับคนที่อยากปลูกผม มีปัญหาผมบางเว้าลึกจากกรรมพันธุ์ แต่มีงบประมาณที่จำกัด และไม่กังวลเรื่องการพักฟื้น เพราะจะเห็นรอยแผลด้านหลังบริเวณที่ปลูก ที่ต้องมีรอยโกนผมเป็นรอยใหญ่
- นิยมปลูกเทคนิค Shaven FUE กันในผู้ชาย เนื่องจากทรงผมผู้ชายสั้นกว่าผู้หญิง
- มีปัญหาผมบาง ศีรษะล้าน
- ไม่อยากมีตุ่มแผลไข่หนอนหลังปลูก
- ไม่อยากใช้ผ้าพันศีรษะหลังปลูกผม
- ไม่อยากเสียเวลาพักฟื้น
Shaven FUE กับ Non Shaven FUE ต่างกันอย่างไร
การปลูกผมถาวร Shaven FUE เป็นการเจาะเอาแต่ตัวกราฟท์ผมที่ผ่านการโกนผมด้านหลังมา จึงมีลักษณะตอผมสั้น เราจะใช้วิธีการเจาะตรงท้ายทอยเช่นกัน และคัดแยกกราฟท์ เพื่อนำกราฟท์ผมที่สมบูรณ์นำไปฝังบริเวณที่เราต้องการ และรอเวลาผมขึ้นถึงจะเห็นความหนาแน่นของเส้นผมที่ขึ้นใหม่ เทคนิคนี้เป็นเทคนิคที่ต้องโกนผมด้านหลัง และใช้เวลาพักฟื้นมากกว่าเทคนิค Short Hair Non shaven FUE ผลลัพธ์ของแนวเส้นผมอาจจะไม่ได้เห็นทันทีหลังทำ เทคนิคนี้อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพักฟื้นสั้น เนื่องจากจะต้องมีการโกนผมด้านหลัง ซึ่งต้องใช้ระยะเวลานานกว่าผมจะกลับมายาวเหมือนเดิม
ทำไมจึงควรเลือกใช้วิธี Shaven FUE
การปลูกผม Shaven FUE นั้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาเส้นผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน เพื่อสร้างความมั่นใจ มีบุคลิกภาพที่ดี มีโครงหน้าชัดขึ้น ทำให้ใบหน้าดูดี แลดูอ่อนวัย แนวผมดูแน่นเป็นธรรมชาติ ปลอดภัย ใช้เวลาเพียง 1 วันเท่านั้น ก็สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้
ข้อดีและข้อจำกัดของเทคนิคนี้
ข้อดีของเทคนิคนี้
- แพทย์สามารถมองเห็นพื้นที่ด้านหลังแบบมุมกว้างได้
- เหมาะกับคนที่ต้องการตัดผมสั้น เช่น อาชีพทหารตำรวจ และทรงผมสั้นแบบรองทรง
- ใช้ระยะเวลาในการเจาะรากผมสั้นที่สุด เมื่อเทียบกับการปลูกผม FUE แบบอื่น ๆ
- ดูแลทำความสะอาดหลังปลูกผมได้ง่าย
- ราคาถูกกว่าเทคนิค Short Hair Non – ShavenFUE และเทคนิค VDHI – Non-Shaven FUE
ข้อจำกัดของเทคนิคนี้
- ต้องโกนผมเป็นวงกว้าง เพื่อทำการเจาะเซลล์รากผมออกมา
- เห็นรอยโกนผมที่สามารถเห็นได้อย่างเด่นชัด
- ใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าเทคนิคอื่น ๆ
ใช้เวลาทำนานแค่ไหน
ระยะเวลาในการปลูกผมเทคนิค Shaven FUE เฉลี่ยประมาณ 6-7 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับจำนวนกราฟท์ที่แพทย์ประเมินร่วมกับคนไข้
Shaven FUE ปลอดภัยหรือไม่
Vdesign Hair เป็นคลินิกชั้นนำของประเทศไทย ที่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลความปลอดภัยของโรงพยาบาลวิภาวดี เรามีการบริการดูแลปลูกถ่ายเส้นผมและรักษาเส้นผมแบบครบวงจร ดังนั้นความปลอดภัย จึงเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญอย่างมาก เรามีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์การปลูกผมมากกว่า 10 ปี การันตีประสบการณ์ด้วยสมาชิกองค์กรปลูกผมระดับนานาชาติ
ทำแล้วเจ็บไหม
ในระหว่างขั้นตอนก่อนการปลูกผม Shaven FUE แพทย์จะทำการฉีดยาชาบริเวณท้ายทอย (เป็นบริเวณที่เส้นผมไม่มีการตั้งรับ DHT Hormone) การฉีดยาชาอาจจะทำให้เจ็บได้ในขณะที่ฉีด และในระหว่างที่ปลูกผมจะทำให้คนไข้ไม่รู้สึกเจ็บขณะปลูกผม และคนไข้รู้สึกตัวตลอดระหว่างปลูกผม (คนไข้สามารถเล่นมือถือ, เล่น iPad, ดู Netflix ได้ขณะรับบริการ) หลังปลูกผมเสร็จ ทีมแพทย์จะทำการสระผมเพื่อทำความสะอาดศีรษะให้ทันที อาจจะมีอาการปวดตึงที่ศีรษะด้านหลังได้เล็กน้อย และสามารถทานยาเพื่อระงับอาการปวดได้
